ชื่อสินค้า:

ลูทีนเอส

หมวดหมู่:

ลูทีน

ราคา : 390 บาท

ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)

แหล่งที่พบ ลูทีน และ ซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกจาก จะพบมากในดอกดาวเรือง และโกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้) 
การบริโภคพืชผักที่มีลูทีนและชีแซนทีน หรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้ จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพของดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม

 เลซิตินดอกทานตะวันเป็นอาหารเสริมที่ประกอบด้วยเลซิตินที่สกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน.
ประกอบด้วยโคลีน, สารตั้งต้นในการ acetylcholine สารสื่อประสาท, เช่นเดียวกับเอสเท phosphadatidyl. มักจะเลือกมากกว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากถั่วเหลืองเลซิตินดอกทานตะวันเนื่องจากนิสัยชอบของแหล่งอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการแพ้.

  น้ำมันจากดอกคำฝอยอุดมไปด้วยกรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic Acid) และกรดโอเลอิก (Oleic Acid) กรดปาลมิติก (Palmitic Acid) กรดสเตียริก (Stearic Acid) รวมถึงกรดไขมันชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิด ส่วนเมล็ดของดอกคำฝอยประกอบไปด้วยสารกลุ่มลิกแนน ไกลโคไซด์ (Lignan Glycoside) และสารเซโรโทนิน (Serotonin)

ดอกคำฝอยกับการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ให้ผู้ป่วยภาวะไขมันในเลือดสูงรับประทานน้ำมันจากดอกคำฝอยเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ผสมกับน้ำมันรำข้าว 80 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ประสิทธิภาพการลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีอาจมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากประสิทธิภาพของน้ำมันดอกคำฝอยร่วมด้วย อีกทั้งยังเป็นงานวิจัยขนาดเล็กที่มีผู้เข้าร่วมทดลองน้อย จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพในด้านดังกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ดอกคำฝอยกับการลดความดันโลหิต

ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตบางอย่าง เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาจช่วยให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากดอกคำฝอยประกอบด้วยสารที่ออกฤทธิ์ต่อหลอดเลือดแดง เช่น สารพอลีฟีนอล (Polyphenols) และสารเซโรโทนิน (Serotonin) ที่อาจช่วยยับยั้งไขมันชนิดที่ไม่ดี (LDL) ลดการก่อตัวของพลัค (Plaques) ตามผนังหลอดเลือด จึงเชื่อว่าดอกคำฝอยอาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับความดันโลหิต จากผลการวิจัยประสิทธิภาพสารสกัดจากเมล็ดดอกคำฝอย นักวิจัยแนะนำว่าการบริโภคสารสกัดจากเมล็ดดอกคำฝอยเป็นเวลานานค่อนข้างปลอดภัยต่อร่างกาย และอาจช่วยบรรเทาภาวะหลอดเลือดแดงแข็งได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของดอกคำฝอยให้ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไป

ดอกคำฝอยกับโรคเบาหวาน

ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หากไม่รักษาจะทำให้เส้นประสาท หลอดเลือด และอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเสียหาย วิธีการรักษาโรคเบาหวาน คือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งทำได้หลายวิธี รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ด้วย หลายคนเชื่อว่าการรับประทานดอกคำฝอยอาจส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือด จากผลการศึกษาวิจัยประสิทธิภาพของน้ำมันจากดอกคำฝอยที่ทดลองกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 พบว่าการรับประทานน้ำมันจากดอกคำฝอยวันละ 8 กรัม เป็นเวลา 16 สัปดาห์ อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มระดับไขมันชนิดที่ดี (HDL) ได้ อีกทั้งการรับประทานน้ำมันจากดอกคำฝอยวันละ 8 กรัม อาจส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดและอาจมีประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้อีกด้วย
คุณประโยชน์ของบิลเบอร์รี่

ช่วยถนอมสายตา สารสกัดบิลเบอร์รี่เป็นราชาแห่งการบำรุงดวงตา ซึ่งสารอาหารในบิลเบอร์รี่จะช่วยถนอมสายตาทำให้ดวงตาแข็งแรง แววตามีความสุกใส มีความเป็นประกาย และทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ 
ช่วยในการมองเห็นที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลากลางคืน สารสกัดจากบิลเบอร์รี่สามารถช่วยในเรื่องการมองเห็นทำให้สายตาดีขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพิ่มสีจอประสาททำให้สายตาสามารถทนต่อแสงได้ดีมากขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา 
ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานหนัก สำหรับใครที่ต้องทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาเพ่งมองเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้ดวงตาเกิดอาการเมื่อยล้าได้ 
บำรุงสายตาให้แข็งแรง ช่วยระบบการมองเห็นไม่ให้เสื่อมก่อนวัย
มีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันโรคต่างๆ ของจอประสาทตา ในสารสกัดจากบิลเบอร์รี่เราจะพบสารที่เรียกว่า Anthocyanosides ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด ที่จะช่วยป้องกันสารพิษที่จะเข้าสู่ร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ชรา และที่สำคัญคือช่วยป้องกันสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้